H2O Hydro Garden
ที่อยู่: เลขที่ 8 ซอย นาคนิวาส 53 ลาดพร้าว 71 แขวง ลาดพร้าว กทม. 10230
เบอร์โทร: 02 932 9200 มือถือ: 086 500 9698, 084 106 6831
เคล็ดลับการปลูกผักไฮโดรน้ำนิ่งที่คนไม่ค่อยรู้ เคล็ดลับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์น้ำนิ่งที่คนไม่ค่อยรู้
การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์น้ำนิ่งนั้นความจริงเป็นเรื่องง่าย และเหมาะกับคนเมืองที่ไม่ค่อยมีเวลามาดูแลต้นไม้ รดน้ำพรวนดิน แต่มีหลายคนที่เคยพยายามปลูกผักไฮโดรแบบน้ำนิ่งแล้วไม่สำเร็จ เสียเงินซื้ออุปกรณ์มามากมาย สุดท้ายยังไม่ได้ผักกิน จนยอมแพ้ไปในที่สุด ดังนั้นวันนี้ H2O Hydro Garden จะ มาขอบอกเคล็ดลับในการปลูกผักน้ำนิ่งที่หลายคนยังไม่รู้ให้กันนะคะ เรื่องแรกคือเรื่องของปริมาณน้ำและสารละลายที่ใช้ในการปลูก จากที่ทำทดลองปลูกเองพบว่าผักน้ำนิ่งแบบไฮโดรโปนิกส์นั้น ต้องใช้น้ำถึง 3 ลิตรต่อต้น (เป็นอย่างน้อย)ตลอดระยะเวลาการปลูก 6 อาทิตย์โดยประมาณ เพื่อให้การปลูกนั้นสำเร็จ ผักเจริญเติบโตได้ดี ดังนั้นถ้าหากเราต้องการปลูกผัก 10 ต้นโดยไม่เปลี่ยนน้ำสารละลายเลยนั้น นั่นหมายความว่าเราต้องมีภาชนะที่สามารถบรรจุน้ำได้ถึง 30 ลิตรเลยทีเดียว เพื่อให้น้ำ ปุ๋ยและ อากาศเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืชนั่นเอง เรื่องที่สองเป็นเรื่องของอากาศ อากาศเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวบอกว่าการปลูกพืชแบบน้ำนิ่งจะได้ผลไหม เพราะเรื่องที่สำคัญที่เข้าใจคือ พืชใช้อากาศในการเจริญเติบโตผ่านทางราก โดยรากพืชจะแบ่งเป็นรากน้ำและรากอากาศ รากน้ำจะทำการดึงออกซิเจนที่อยู่ในน้ำมาใช้ ส่วนรากอากาศจะเป็นรากที่ลอยอยู่ในอากาศนั่นเอง คนที่ปลูกผักน้ำนิ่งนั้นส่วนใหญ่ประสบปัญหาน้ำเน่าเนื่องจากปลูกพืชเยอะไป จำนวนพืชไม่สมดุลกับจำนวนน้ำ ทำให้พืชดึงออกซิเจนในน้ำไปใช้จนหมดจนน้ำเน่าเสียและพืชตายในที่สุด อย่างที่สองที่ชอบทำผิดกันคือการเติมน้ำจนเต็ม รากจมในน้ำ 100% การทำเช่นนี้ตอนพืชโตแล้ว รากยาว มีรากอากาศและรากน้ำสมบูรณ์ จะทำให้ต้นพืชตายหรืออ่อนแอ เนื่องจาก รากอากาศนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนเป็นรากน้ำได้ รากอากาศจึงเสียไปหากเอาไปใส่ในน้ำนั่นเอง เรื่องที่สามเป็นเรื่องความร้อนของน้ำ โดยปกติแล้ว การปลูกพืชให้ได้ผลดีนั้น น้ำไม่ควรร้อนเกิน 30 องศา หากน้ำร้อนเกิน จะส่งผลให้พืชไม่โต และเกิดโรครากเน่าอีกด้วย ดังนั้นการปลูกผักน้ำนิ่งที่ได้ผลดี ส่วนมากจึงเป็นผักไทย เพราะทนความร้อนได้ดีกว่า นอกจากนี้คนที่เลือกใช้กล่องโฟมในการปลูก จะดีกว่าการใช้ขวด กะละมัง เนื่องจากกล่องโฟมสามารถกันความร้อนได้ดีกว่านั่นเอง เรื่องที่สี่คือเรื่องของแสงแดด เรื่องแดดนั้นสำคัญไม่ว่าจะเป็นการปลูกผักแบบไหนก็ตาม การปลูกผักให้ได้ผลดีนั้น พืชต้องมีแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน ถึงจะสามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่ การสังเกตง่ายๆเลยว่าพืชที่เราปลูกนั้นขาดแสงหรือไม่คือการสังเกตที่ลักษณะของต้นพืช หากละต้นยืด ผอม สูง และใบบางบานออก พืชลักษณะนี้เป็นลักษณะที่แสดงให้เห็นถึงการขาดแสงแดดนั่นเอง หากมีใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ สามารถสอบถามเพิ่มเติมมาที่ Line @h2ohydrogarden ได้เลยนะคะ หรือถ้าอยากลองปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แบบจริงจังก็สามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บ www.h2ohydrogarden.comค่ะ มีบทความมากมายเกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เลยค่ะ
สอบถามเรื่องการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เพิ่มเติมทักมาได้เลยค่ะ
|